วิธีการประหยัดต้นทุนถุงพลาสติกในธุรกิจของท่าน

เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าถุงพลาสติกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออาหารตามร้านหรือแม้แต่การซื้อของออนไลน์ ก็จะต้องมีถุงพลาสติกอย่างน้อยๆ 1 ใบมาเกี่ยวของแน่ๆ ซึ่งการใช้ถุงพลาสติกก็จะเป็นต้นทุนด้านบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้ประกอบกิจการ ที่จะต้องจ่ายเพื่อให้การทำธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ดังนั้นเราจำเป็นต้องรู้ต้นทุนของถุงพลาสติกที่ทุกท่านซื้อมาเพื่อบรรจุสินค้าของท่านก่อน วิธีการคำนวณต้นทุนง่ายๆก็คือการพิจารณาจากหน่วยที่ซื้อ บางธุรกิจอาจจะซื้อถุงพลาสติก หน่วยเป็น บาท/ใบ ซึ่งก็จะได้ต้นทุนที่ตรงตัวกับราคา แต่อีกหลายๆธุรกิจ ซื้อถุงพลาสติกเป็นหน่วย บาท/กิโลกรัม ซึ่งจะต้องมีการคำนวณเพิ่มเติม เช่น ถ้าท่านซื้อถุงพลาสติกมากิโลกรัมละ 80 บาท และใน 1 กิโลกรัมนั้นมีจำนวน 50 ใบ ต้นทุนพลาสติกที่ท่านซื้อมาก็จะเป็น 80/50 = 1.60 บาท/ใบ เมื่อเรารู้ต้นทุนถุงพลาสติกต่อใบแล้วแนวทางการลดต้นทุนจะมีอยู่ 2 จุด ได้แก่ ลดราคาถุงพลาสติกต่อกิโลกรัม ซึ่งสามารถทำได้โดยการต่อรองราคาหรือติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตโดยตรง เพิ่มจำนวนใบต่อกิโลกรัม โดยการลดความหนาของถุงพลาสติกลง แต่วิธีการนี้จะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อหาความหนาจุดที่ลงตัวที่สุด เนื่องจากมีความเสี่ยงจากความแข็งแรงของถุงพลาสติก ที่ลดลงตามความบาง ซึ่งเมื่อเราทำการลดต้นทุนถุงพลาสติกด้วยวิธีดังกล่าวนี้แล้ว จะสามารถลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในอย่างน้อย 10-30% เลยทีเดียว และในบทความหน้าจะมีการลดต้นทุนถุงพลาสติกในรูปแบบของการใช้ถุงพลาสติกเกรดรีไซเคิลมาฝากกันนะครับ สามารถติดตามได้ที่ โรงงานผลิตถุงพลาสติกไทยฮง สำหรับท่านที่ต้องการ ถุงพลาสติกขนาดใหญ่

วิธีการคำนวณหาขนาดถุงพลาสติกเพื่อรองในกล่องกระดาษ

กล่องกระดาษเป็นอีกหนึ่งในบรรจุภัณฑ์ที่เราใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งกล่องกระดาษสามารถตอบโจทย์ในการบรรจุและขนส่งสินค้าในเกือบทุกรูปแบบเนื่องจากเป็นทรงสี่เหลี่ยมสามารถวางซ้อนหรือจัดเรียงได้อย่างเรียบร้อยและสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถพิมพ์โลโก้ คุณสมบัติต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังมีสินค้าบางประเภทหรือบางสภาพแวดล้อมที่กล่องกระดาษเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ เช่น สินค้าที่อาจจะมีกลิ่นแรงเช่น ผลไม้บางชนิดหรือของสด สินค้าที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะมีฝุ่นจากภายนอกมาสัมผัสได้ สินค้าที่ไม่สามารถสัมผัสกับความชื้น เช่นผงสารเคมีต่างๆ เป็นต้น สินค้าที่มีลักษณะเป็นของเหลวหรือกึ่งเหลว ซึ่งสินค้าในลักษณะดังกล่าวจำเป็นต้องมีถุงพลาสติกรองในกล่องกระดาษลังอีกชั้นหนึ่งเพื่อรองรับการบรรจุ แต่การคำนวณขนาดถุงพลาสติกจะมีความซับซ้อนเล็กน้อยเนื่องจากขนาดของถุงพลาสติกจะเป็นระนาบ 2 มิติ ที่มีแค่ กว้าง X ยาว เท่านั้น ในขณะที่กล่องกระดาษจะเป็นแบบ 3 มิติ ที่มี กว้าง X ยาว X สูง สิ่งที่ผู้ใช้งานต้องคำนวณเพื่อหาขนาดถุงจะมีดังนี้ครับ ความกว้างของปากถุงพลาสติก – คำนวณโดยการนำ ด้านกว้างและด้านยาวของกล่องมาบวกกันและทำการเผื่อไปอีก 1-2 นิ้ว เพื่อให้ถุงมีความหลวม ง่ายต่อการบรรจุสินค้าลงในกล่อง ความยาวของถุงพลาสติก – คำนวณโดยการนำ ด้านยาวและความสูงของกล่องมาบวกกัน และเผื่อความยาวอีก 5-7 นิ้ว กรณีปิดปากถุงด้วยการซีลความร้อนหรือติดเทปกาว หรือ 10-15 นิ้ว กรณีมัดปมด้วยปลายถุงพลาสติก… Continue reading วิธีการคำนวณหาขนาดถุงพลาสติกเพื่อรองในกล่องกระดาษ

คุณสมบัติของถุงพลาสติก HDPE และ LDPE

ถุงพลาสติกที่เราใช้งานกันอยู่ทั่วไปนั้นมีหลากหลายชนิด เราสามารถเลือกใช้ถุงพลาสติกเหล่านี้ตามความสวยงามและคุณสมบัติต่างๆ เช่นความใส หรือการทดความร้อนของถุงพลาสติกเป็นต้น ในบรรดาถุงพลาสติกที่ใช้กันทั่วๆไปตามท้องตลาด มีพลาสติกกลุ่มหนึ่งที่เป็นตระกูล PE ซึ่งย่อมาจาก Polyethylene ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับพลาสติกตระกูล PE กันนะครับ ถุงพลาสติก PE จะสามารถแบ่งย่อยเป็น 2 ชนิด ได้แก่ถุงพลาสติก HDPE (High Density Polyethylene) และ LDPE(Low Density Polyethylene) ซึ่งถุงพลาสติกทั้ง 2 ชนิดมีคุณสมบัติต่างกันดังนี้ครับ ถุงพลาสติก HDPE สีออกขาวขุ่น มีเนื้อพลาสติกที่แข็งกรอบ สามารถทนความร้อนได้ถึง 90 องศาเซลเซียส คงรูปดี ไม่ย้วยง่าย สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ ถุงพลาสติก LDPE สีออกขาวใส เนื้อพลาสติกนิ่ม ยืดหยุ่นดี สามารถทำความร้อนได้ 80 องศาเซลเซียส สามารถยืดตามแรงดึงได้ สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้อีกครั้ง จากคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังกล่าว ลูกค้าสามารถเลือกใช้ถุงพลาสติก PE ให้เหมาะสมกับงานได้เช่น ถุงหูหิ้วควรใช้เป็นเนื้อ HDPE เพราะว่าคุณสมบัติการคงรูปดีกว่า… Continue reading คุณสมบัติของถุงพลาสติก HDPE และ LDPE

ขั้นตอนการผลิตในโรงงานผลิตถุงพลาสติก

เมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้วมีนักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการสั่งเคราะห์พลาสติกครั้งแรกในโลก พลาสติกถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ในเวลาต่อมาอีกประมาณ 50 ปี มีการคิดค้นวิธีขึ้นรูปพลาสติกแบบใหม่ที่ชื่อว่า Blown Film Extrusion ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของการผลิตถุงพลาสติกทั่วๆไปที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน วิธีขึ้นรูปพลาสติกแบบ Blown Film Extrusion มีขั้นตอนดังนี้ ผสมเม็ดพลาสติกตามสูตรของการผลิต (เช่น HDPE,LDPE,PET,PP เป็นต้น) อุ่นเครื่องเป่าถุงพลาสติกที่ความร้อน 150-200 องศาเซลเซี่ยส ตามชนิดของเม็ดพลาสติก เทเม็ดพลาสติกที่ผสมเสร็จแล้วลงในถังบรรจุด้านท้ายของเครื่อง เปิดมอเตอร์เพื่อหมุนสกรูกับกระบอกเพื่อดันเม็ดไปทางด้านหน้าเครื่อง ในขั้นตอนนี้เม็ดพลาสติกจะค่อยๆหลอมละลายไปตามทางเดิน พลาสติกที่หลอมละลายจะถูกดันผ่านหัวเป่า (Die head) ที่มีลักษณะเป็นวงแหวน ทำการเป่าแรงดันลมเพื่อให้พลาสติกที่ออกมาจากหัวเป่าขยายเป็นขนาดที่ต้องการ หล่อเย็นพลาสติกที่ได้ขนาดแล้ว โดยสามารถหล่อเย็นด้วยน้ำหรือลม ขึ้นอยู่กับวิธีการผลิตของเครื่องนั้น ลูกกลิ้งจะเก็บพลาสติกเข้าม้วนกับแกนกระดาษ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ขั้นตอนต่อไปได้แก่ การพิมพ์,การตัด,การ Slit,การเจาะหูหิ้ว ฟิล์มพลาสติก หลังจากผ่านขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ก็จะได้ถุงพลาสติกเพื่อนำมาใช้งานบรรจุสินค้าต่างๆในชีวิตประจำวันของเราแล้วครับ ลิ้งค์สำหรับติดตาม โรงงานผลิตถุงพลาสติก

การรีไซเคิลถุงพลาสติกที่ใช้แล้ว

สวัสดีครับ เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าถุงพลาสติกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออาหารตามร้านค้าหรือแม้แต่การซื้อของออนไลน์ ก็จะต้องมีถุงพลาสติกอย่างน้อยๆ 1 ใบมาเกี่ยวของแน่ๆ ซึ่งในทุกๆวันก็จะมีขยะที่เกิดขึ้นจากการใช้พลาสติกเป็นปริมาณหลายพันตันต่อวัน ทุกท่านรู้มัยครับว่าขยะพลาสติกเหล่านั้นไปไหนและสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจอย่างไร คำตอบก็คือขยะพลาสติกเหล่านั้นจะถูกรวบรวมโดยลุงซาเล้งตามทุกซอกซอย และนำมาขายต่อให้ร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งเป็นที่ที่เก็บรวบรวมขยะพลาสติกเป็นอย่างดี และหลังจากนั้นจะมีคนงานคัดแยกเศษพลาสติกเหล่านั้นตามชนิดของเนื้อพลาสติก ชนิดของเนื้อพลาสติกคร่าวๆได้แก่ PET, HDPE, LDPE และ PP เป็นต้น และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการคัดแยกแล้วก็จะนำเศษพลาสติกมาล้างทำความสะอาดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการหลอมให้เป็นเม็ดพลาสติกอีกครั้ง ซึ่งมาถึงขั้นตอนนี้ขยะจากพลาสติกหลังจากที่ผ่านการหลอมเป็นเม็ดพลาสติกอีกครั้งแล้ว ก็พร้อมที่จะป้อนเข้าโรงงานเพื่อขึ้นรูปใหม่อีกครั้งนะครับ ซึ่งสินค้าที่ได้จากวัตถุดิบเกรดรีไซเคิลอาจจะมีสีคล้ำไม่สวยงาม และมีกลิ่นพลาสติกเก่าเล็กน้อยนั้น เหมาะกับงานอุตสาหกรรมต่างๆที่เน้นความประหยัดของต้นทุนถุงพลาสติก และนอกจากเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมแล้วยังเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้คนอีกมากมายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจครับ ติดต่อสอบถามการผลิตถุงพลาสติกเกรดรีไซเคิลเพิ่มเติมได้ที่  โรงงานผลิตถุงพลาสติก

การทดสอบความแข็งแรงของถุงพลาสติก

สวัสดีครับ ก่อนที่จะเริ่มทดสอบความแข็งแรงของถุงพลาสติก เรามาเริ่มจากการทำความรู้จักกับสเปคของถุงพลาสติกที่เราใช้ในชีวิตประจำวันกันก่อนนะครับ โดยถุงพลาสติก 1 ใบ จะมีทั้งหมด 3 มิติซึ่งได้แก่ ความกว้าง – เป็นด้านบริเวณฝั่งที่เปิดปากถุง ความยาว – เป็นด้านที่เป็นลำตัวถุง ความหนา – เป็นด้านที่เป็นส่วนสูงของแผ่นฟิล์ม ซึ่งจะน้อยมากมีหน่วยเป็น ไมครอน ความกว้างและความยาวจะบ่งบอกถึงขนาดบรรจุที่เราสามารถใส่สินค้าได้ และความหนาก็จะให้ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นตามความหนาที่เพิ่มขึ้นครับ ซึ่งการทดสอบความแข็งแรงจะทำการดึงถุงพลาสติกใบที่ทำการทดสอบเป็น 3 แนวของการดึงดังนี้ครับ ดึงถุงพลาสติกตามแนวขวาง (ขนานกับด้านที่เป็นความกว้าง) ซึ่งแนวนี้เรียกเป็นการทดสอบแนว TD(Transverse Direction) ดึงถุงพลาสติกตามแนวยาว (ขนานกับด้านที่เป็นความยาว) ซึ่งแนวนี้เรียกเป็นการทดสอบแนว MD(Machine Direction) ดึงถุงพลาสติกบริเวณก้นถุง เพื่อทดสอบการรับน้ำหนักสินค้า ซึ่งการทดสอบนี้เรียกว่า Seal Strength Test ซึ่งการทดสอบดังกล่าวยังจำเป็นที่จะต้องทดสอบถุงพลาสติกในการใส่สินค้าจริงอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้งานจริงครับ ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับถุงพลาสติกได้ที่ โรงงานผลิตถุงพลาสติก